S45C/S50C
เหล็กกล้าคาร์บอน
(Carbon steel for machine structural use)
JIS : G4051 grade S45C - S50C
DIN: 1.1191 / CK45
AISI/SAE/ASTM :1045
คุณสมบัติทั่วไป (Physical Properties)
เหล็กเกรด S45C / S50C จัดเป็นกลุ่มเหล็กกล้าคาร์บอนปานกลาง ที่นิยมนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งงานโครงสร้าง อะไหล่เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ทางการเกษตร ชิ้นส่วนเครื่องจักรกล ชิ้นส่วนยานยนต์ แม่พิมพ์และส่วนประกอบของแม่พิมพ์ เป็นต้น เนื่องจากเป็นเหล็กที่ราคาถูก ใช้งานได้หลากหลาย มีคุณสมบัติทางกลที่ดี ทั้งด้านความแข็งแรง ความเหนียวแกร่ง สามารถชุบอินดักชันได้ดี
การใช้งาน (Applications)
ส่วนใหญ่นิยมนำไปใช้งานประเภท
  • แม่พิมพ์พลาสติก
  • ชิ้นส่วนประกอบแม่พิมพ์ เช่นกรอบแม่พิมพ์ชิ้นส่วนอุปกรณ์ทางการเกษตร เช่น จอบ เสียม คราด ฯลฯ
  • ชิ้นส่วนเครื่องจักรกล เช่น ลูกกลิ้ง ลูกรีด ฯลฯ
  • ชิ้นส่วนยานยนต์เช่น เฟือง เพลาข้อเหวี่ยง ข้อต่อ สปริง สลักเกลียว ฯลฯ
Chemical & Composition (%wt)
C
0.42-0.48


Si
0.15-0.35


Mn
0.60-0.90


Cr
0.20
max

Ni
0.20
max

u
0.30
max

P
0.030
max

S
0.035
max
Heat Treatment :
อบคืนไฟ 530-670 C / ชุบแข็ง 830-860 C
Hardness:
ความแข็งก่อนชุบ (HB) : 185-210
ความแข็งหลังชุบ (HRC): 58-60

SCM415/SCM21
เหล็กกล้าผสมต่ำ เหล็กหัวขาว
(Low Alloy Steels - Chromium & molybdenum steels )
JIS G4105 : SCM415 /SCM21
DIN 17200 : 1.7337/16 Cr Mo 44
AISI/SAE/ASTM: 4115
คุณสมบัติทั่วไป (Physical Properties)
เหล็กเกรด SCM415 จัดเป็นกลุ่มเหล็กโครเมียม และ โมดิบดีนัม เป็นธาตุผสมที่สำคัญ ซึ่งช่วยเพิ่มความเหนียว และ ทนต่อแรงดึงได้ดีแล้ว เนื่องจากมีปริมาณ คาร์บอนต่ำ ทำให้เหมาะกับการนำมาชุบแข็งผิวด้วยวิธี คาร์บูไรซิงค์ (Carburising) เพื่อปรับปรุงให้มีความต้านทานการเสียดสี เหล็กชนิดนี้มีลักษณะเด่น คือ
  • มีความเหนียวแก่งดี
  • มีความยืดตัวสูง สามารถดัดงอได้ง่าย
  • ต้านทานต่อการบิดได้ดี
  • ต้านทานต่อการล้าได้ดี
  • ผิวต้านทานต่อการสึกหรอได้ดีเมื่อชุบคาร์บูไรซิงค์
  • สามารถชุบแข็งผิวได้ลึกปานกลาง
  • มีความสามารถในการตัดกลึงได้ดี

การใช้งาน (Applications)
ส่วนใหญ่นำไปใช้งานประเภทที่ต้องการความต้านทานการเสียดสีสูง เช่น เฟือง เพลา ลิ่ม สกูร ฯลฯ

Chemical & Composition (%wt)
C
0.13-0.18


Si
0.15-0.35


Mn
0.60-0.85


Cr
0.90-1.20
max

Mo
0.15-0.30
max

Ni
0.25
max

P
0.030
max

S
0.035
max

Heat Treatment :
อุณหภูมิ อบอ่อน : 650-700 C
อุณหภูมิ การชุบคาร์บูไรซิงค์ : 890-925 C
อุณหภูมิชุบแข็ง : 850-880 C
อุณหภูมิการชุบแข็งผิว : 810-840 C
Hardness :
ความแข็งก่อนชุบ อบอ่อน (HB) :160-180
ความแข็งหลังชุบ (HRC): 58-62


SCM440 & SCM435
เหล็กกล้าผสมต่ำ เหล็กสีฟ้า
(Low Alloy Steels - Chromium & molybdenum steels )
เกรด JIS : G 4053 SCM440 & SCM435
DIN 17200 : 1.7225 / 42CrMo4
AISI /SAE/ASTM : 4140
คุณสมบัติทั่วไป (Physical Properties)
เหล็กเกรด SCM440 & SCM435 เป็นกลุ่มเหล็กกล้าผสมต่ำที่มีความแข็งแรงสูง เพราะมี โครเมียม(Cr) และ โมดิบดีนัม(Mo) เป็นส่วนผสมที่สำคัญ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ความสามารถในการชุบแข็ง ต้านทานต่อการสึกหรอได้ดี มีความเหนียวแกร่งที่อุณหภูมิต่ำได้ดีกว่าเหล็กกล้าคาร์บอนที่มีปริมาณคาร์บอนที่ใกล้เคียงกัน และสามารถชุบแข็งผิวเพื่อเพิ่มความแข็งเฉพาะผิวได้
การใช้งาน (Applications)
เหมาะสำหรับนำไปใช้ทำชิ้นส่วนเครื่องจักรกล และชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น เฟืองเครื่องจักร เพลาข้อเหวี่ยง สปริง สลักเกลียว เพลาล้อ ก้านสูบ ข้อต่อก้านพวงมาลัย ชิ้นส่วนรถไฟ แกนไฮโดรลิก ฯ
Chemical & Composition (%wt)
C
0.38-0.43


Si
0.15-0.35


Mn
0.60-0.90


Cr
0.90-1.20


Mo
0.15-0.30


Ni
0.25
max

P
0.030
max

S
0.035
max
Heat Treatment :
อบคืนไฟ 540-630 C / ชุบแข็ง 830-860 C
Hardness:
ความแข็งก่อนชุบ อบอ่อน (HB) :248-269
ความแข็งหลังชุบ (HRC): 55- 60

SS400

เหล็กเพลาขาว Grade JIS G 3101: SS400(SS41)
(Cold Drawn Steels)
JIS G3123: SGD400 / JIS G3101: SS400/SS41
DIN 17100: ST37
ASTM : A36

 
เหล็กเพลาขาวเป็นเหล็กรีดเย็น สามารถนำไปใช้ในงานอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ได้มากมายสืบเนื่องมาจากคุณลักษณะเฉพาะตัว ที่แตกต่างจากเหล็กทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดของขนาด, ความเรียบของพื้นผิว และคุณสมบัติทางกลบางประการ ซึ่งเอื้อให้เหล็กเพลาขาว มีคุณสมบัติในการใช้งานสูงกว่าเหล็กประเภทอื่นๆ มีหน่วยเรียกในการซื้อขาย2ชนิดคือ หน่วยหุน เช่น ขนาด 1/8", 3/8", 1", 1.1/2" หน่วยมิล เช่น ขนาด 5มิล, 8มิล, 15มิล, 30มิล เป็นต้น ซึ่งในแต่ละชนิดมีการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่ในตลาดทั่วไปแล้ว เหล็กเกรด SS400 มีอยู่ 2 ประเภทด้วยกันคือ
1. เหล็กรีดร้อน คือ เหล็กแผ่นโครงสร้าง และ เหล็กเพลาดำ
2. เหล็กรีดเย็น คือ เหล็กเพลาขาว
หากเปรียบเทียบกับเหล็กรีดร้อนทั่วไปหรือเหล็กเพลาดำ เหล็กเพลาขาวจะมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าหลายประการ 
1. มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางที่แม่นยำกว่า
2. มีคุณสมบัติทางกลที่ดีกว่า
3. มีสภาพผิว และ ความตรงที่ดีกว่า
4. สามารถนำไปใช้ทำชิ้นงานได้สะดวกและมีความสม่ำเสมอกว่า
คุณสมบัติ และ การใช้งานทั่วไป (Physical Properties & Application)
เชื่อม และ ขึ้นรูปง่าย เหมาะกับงานโครงสร้างทั่วไป ใช้ทำชิ้นส่วนเครื่องจักรกลทางการเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟืองที่รับแรงไม่สูงนัก แกนโช้คอัพ ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น
Chemical & Composition (%wt)
C
0.09-0.20


Si
0.18-0.22


Mn
0.40-0.50


Cr
0.20


P
0.030
max

S
0.035
max

SKD11
เหล็กกล้าเครื่องมืองานเย็น (เหล็กน้ำมัน)
(Cold work tool steels) เกรด JIS G4404:SKD11
DIN : 1.2379 /x155CrVMo 12-1
AISI : D2
ASSAB : XW 41
BOHLER : K105
คุณสมบัติทั่วไป (Physical Properties)
เป็นเหล็กกล้าทำเครื่องมือชนิดคาร์บอนสูง และ โครเมียมสูง (cr12% ) ไม่เปลี่ยนรูปหลังการชุบแข็ง นอกจากนี้ยังมีธาตุผสม Mo เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการชุบแข็ง ให้ความเหนียวดีมาก ยังมีส่วนผสมของ ธาตุ( V) Vanadium สูง เพื่อรักษาคมตัดให้มีความแข็ง คม และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทนการเสียดสีได้ดี ผิวเหล็กมีความแข็งสูง หลังการชุบแข็ง และมีความแข็งสม่ำเสมอตลอดทั้งชิ้นงาน เกิดการบิดงอน้อย หลังการชุบแข็ง ต้านทานการอ่อนตัวที่อุณหภูมิสูงได้ดี
การใช้งาน (Applications)
นิยมใช้ทำแม่พิมพ์สำหรับงานเย็นกันอย่างกว้างขวาง เช่น
? แม่พิมพ์(Blanking) แม่พิมพ์ปั๊ม(Pressing) แม่พิมพ์ดัด(Bending) แม่พิมพ์ดึงขึ้นรูป(Drawing) แม่พิมพ์สำหรับงานรีดเกลียว แม่พิมพ์พลาสติก(ที่ต้องการทนต่อการสึกหรอสูง) ใบมีดตัดโลหะและพลาสติก ลูกรีดเกลียว อื่นๆ
Chemical & Composition (%wt)
C
1.40-1.60


Si
0.10-0.40


Mn
0.15-0.45


Cr
11.0-12.0


Mo
0.60-0.80


V
0.90-1.10

Ni
0.50
max

P/ S
0.030
max
Heat Treatment :
สภาพจำหน่าย : อุณหภูมิ อบอ่อน 800-840°c ความแข็งสูงสุด 242-255 HB
สภาพหลังชุบ : อุณหภูมิ ชุบแข็ง 1020-1040 ? ลม 500-550 ?
ชุบแข็งน้ำมัน 1000-1080 ?
อุณหภูมิคืนไฟ 520-550 ?
ความแข็งหลังการชุบ 57.5-60HRC

SKD61
เหล็กกล้าเครื่องมืองานร้อน
Hot-work tool steels, chromium, tungsten, and molybdenum grade JIS G4404 : SKD61
AISI : H13
ASSAB : 8407
DIN : 1.2344 / X40CrMoV5-1
BOHLER : W302
คุณสมบัติทั่วไป (Physical Properties)
เหล็กกล้าเครื่องมืองานร้อน ในกลุ่มประเภท Cr – Mo- V ที่นิยมนำไปใช้งานการอย่างอย่างกว้างขวาง สามารถทนต่อแรงดึงในสภาพร้อนได้ดี ทนต่อการเสียดสีสึกหรอสูง มีความเหนียวแกร่ง และทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างเฉียบพลันได้ดีมาก มีความแข็งแรงสูง ชุบง่าย การเปลี่ยนแปลงขนาดของรูปร่างน้อย
การใช้งาน (Applications)
นิยมนำไปใช้ทำเครื่องมือ และแม่พิมพ์งานร้อนที่ใช้งานหนักทั่วไป แม่พิมพสำหรับงานอุตสาหกรรมสร้างข้อต่อ แม่พิมพ์ฉีดโลหะและพลาสติก แม่พิมพ์อัดขึ้นรูปโลหะ แม่พิมพ์ทุบขึ้นรูป สกูร-น๊อต สลักเกลียว ใบตัดงานร้อน
Chemical & Composition (%wt)
C
0.32-0.42


Si
1.50
max
Mn
1.50
max

Cr
4.50-5.50


Mo
1.00-1.50


V
0.40-1.20


Heat Treatment :
สภาพจำหน่าย : อบอ่อน อุณหภูมิ 750 – 800 ? ความแข็ง 230-240HB
สภาพหลังชุบ : อุณหภูมิ ชุบแข็ง 1020-1080 ?
อ่างเกลือ 500-550 ?
ความแข็งหลังการชุบ น้ำมัน 52-56 HRC
ความแข้งหลังการชุบ ลม 50-54 HRC

SKH2
เหล็กกล้าเครื่องมือความเร็วสูงผสมทังสเตน(W)
(Tungsten High-speed tool steels)
AISI : T1
JIS G4403: SKH2
DIN : 1.3355 , 1.3558
BS 4659 : BT1
คุณสมบัติทั่วไป (Physical Properties)
เป็นเหล็กกล้าเครื่องมือความเร็วสูงที่มีทังสเตนเป็นส่วนผสมหลัก มีปริมาณทังสเตนที่สูงมาก (12-20%) จะเพิ่มคุณสมบัติความสามารถรักษาความแข็งที่อุณหภูมิสูง ปริมาณคาร์บอนกับธาตุผสมที่สูงมีผลทำให้ความสามารถในการชุบแข็งสูง และมีปริมาณคาร์ไบร์ที่มีเสถียรภาพสูง (ไม่สลายตัวที่อุณหภูมิสูง) ซึ่งจะมีผลทำให้ต้านทานการสึกหรอดีเยี่ยม นอกจากนี้ส่วนผสมของวานาเนียมซึ่งฟอร์มตัวเป็นคาร์ไบด์ที่มีเสถียรภาพสูง และกระจายตัว จะช่วยป้องกันการขยายตัวของเกรนได้ในช่วงที่อุณหภูมิสูง และทำให้เกรนมีความละเอียดซึ่งส่งผลถึงความเหนียวของเหล็กด้วย
คุณลักษณะเด่น
? สามารถรักษาความแข็งคมตัดได้ดีมาก
? รักษาความแข็งไว้ที่อุณหภูมิสูง
? ความแข็งสูง
? ทนต่อการเสียดสี
? ทนต่อการสึกหรอ
? มีความต้านทานต่อการแตกสูง
? มีความต้านทานต่อการสูญเสียคาร์บอน ขณะกำลังชุบสูง
การใช้งาน (Applications)
เหมาะสำหรับใช้กับงานที่ต้องใช้ความเร็วรอบสูง เช่น เครื่องมือเจาะboring tools drills millingcutters
Chemical & Composition (%wt)
C
0.73 - 0.83


Si
0.45
Max
Mn
0.40
Max

Cr
3.80 - 4.50


V
1.00 -1.20


W
17.20 - 18.70


P
0.030
max

S
0.030
max
Heat Treatment :
อบอ่อน ความแข็งสูงสุด 245 HB
ความแข็งหลังชุบโดยทั่วไป 63-65 HRC

SUM41
เหล็ก Free-Cutting Steel
(Resulphurised Carbon Steel )
grade JIS : SUM41
AISI: SAE 1137
คุณสมบัติทั่วไป (Physical Properties)
Free cutting steel เป็นเหล็กกล้าที่พัฒนา ให้เหมาะสมกับการกลึง ไส หรือตัดด้วยเลื่อย โดยการเติมผสมธาตุบางอย่างเข้าไปในเนื้อ ทำให้ขี้กลึงขาดงง่ายไม่เป็นเส้นยาวพันกัน ธาตุที่นิยมใช้กันคือ กำมะถัน และ ตะกั่ว โดยปกติแล้ว กำมะถันเป็นธาตุมลทินที่ไม่ต้องการให้มีในเหล็ก เนื่องจากจะทำให้เหล็กแตกหักได้ง่าย ดังนั้นเมื่อนำเหล็กไปกลึง เศษขี้กลึงจะขาดเป็นชิ้นสั้นๆ ทำให้กลึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งธาตุตะกั่วเองก็มีอิทธิพลคล้ายๆกัน เหล็ก free cutting ที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดจึงแบ่งเป็น กลุ่มที่เติม กำมะถัน และกลุ่มที่เติมตะกั่ว carbon steel หมายถึง เหล็กกล้าที่ใช้งานทั่วไปที่มีธาตุอื่นเจือปนอยู่เล็กน้อย บางครั้งเรียกกันว่าเหล็กกล้าไม่เจือ เหล็กในกลุ่มนี้มีการใช้งาน หลายประเภท การกำหนดชั้นคุณภาพตามกลุ่มการใช้งานมากมาย ปริมาณ carbon ในเหล็กจะมีผลต่อความแข็งแรง และความสามารถในการชุบแข็งของเหล็กเหล็กที่มี carbon มากจะชุบแข็งได้ดี เหล็ก low carbon จะมีการความสารถชุบแข็งได้ต่ำมากหรือชุบแข็งไม่ได้มีคาร์บอนต่ำกว่า 0.15 % ส่วนMedium Carbon Steel มีคาร์บอนสูงกว่า 0.15% แต่ไม่เกิน 0.35% (ตัวเลขโดยประมาณ อาจไม่ตรงกับในตำราบ้าง) ชุบแข็งเกือบไม่ได้แต่เหล็กจะมีความแข็งแรงสูงกว่า สรุปก็คือ เหล็ก free cutting จึงต่างจากเหล็ก Low Carbon ทั่วไปตรงที่เพิ่มธาตุผสมบางตัวเข้าไปเพื่อให้กลึง ตัด ได้ง่ายขึ้น
Chemical & Composition (%wt)
C
Carbon
Mn
Manganese
P
Phosphorus
S
Sulfur
0.32-0.39
1.35-1.65
0.04 max

0.08-0.13
Heat Treatment :
อบอ่อน ความแข็งสูงสุด 245 HB
ความแข็งหลังชุบโดยทั่วไป 63-65 HRC